ข้อตกลงการใช้งานเว็บไซต์
COWAYTHAILAND.IN.TH เป็นตัวแทนจำหน่ายเป็นทางการของ บริษัท โคเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยมีเนื้อหาและบริการโคเวย์เว็บไซด์แอ็พพลิเคชั่น (“www.coway.co.th”) ให้ท่านเพื่อรองรับการหาข้อมูลสินค้า ท่านสามารถศึกษาข้อกำหนดและเงื่อนไข (Privacy Policy) โดยการเข้าถึงหรือใช้โปรแกรมท่านจะยอมรับว่าท่านได้อ่านเข้าใจและยอมรับโดยไม่มีข้อแม้ หรือท่านสมบัติที่จะผูกพันตามข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้ ท่านรับรองว่าท่านสามารถยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขเหล่านี้ได้ตามกฎหมายและยืนยันว่าท่านมีความสามารถในการทำสัญญาผูกพันได้ หากท่านไม่ยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขทั้งหมดนี้ท่านต้องไม่ใช้เว็บไซต์แอ็พพลิเคชั่นนี้
1. ลิงก์ของบุคคลที่สามแอพพลิเคชันอาจให้ลิงค์ไปยังเวิลด์ไวด์เว็บหรือแหล่งข้อมูลอื่นๆ (“Third Party Links”) ท่านรับทราบและยอมรับว่า COWAY ไม่รับผิดชอบต่อเนื้อหาของลิงก์ของบุคคลที่สามดังกล่าว การใช้ลิงก์ใด ๆ ของบุคคลที่สามของท่านเป็นความเสี่ยงของท่านเอง COWAY ไม่รับประกันการให้บริการของ Third Party Links และ COWAY จะไม่รับผิดชอบต่อการกระทำเนื้อหาผลิตภัณฑ์หรือบริการของ Third Party Links รวมถึง แต่ไม่ จำกัด เฉพาะนโยบายและข้อกำหนดในการให้บริการข้อมูลส่วนบุคคลของ COWAY ท่านควรอ่านข้อกำหนดในการให้บริการและนโยบายด้านความเป็นส่วนตัวของลิงค์ของบุคคลที่สามทั้งหมดที่ท่านเยี่ยมชม
2. ทรัพย์สินทางปัญญาข้อมูลและเนื้อหาทั้งหมดที่มีอยู่ในเว็บไซต์และ “รูปลักษณ์” รวมทั้ง, แต่ไม่, จำกัด เฉพาะเครื่องหมายการค้าโลโก้, เครื่องหมาย, บริการ, รูปภาพ, กราฟิก, คลิปไอคอน, ไอคอนปุ่ม, ภาพคลิปเสียงทั้งหมด ข้อมูลและซอฟต์แวร์ทั้งหมด และองค์กร (รวมเรียกว่า “เนื้อหา”) เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของ COWAY ท่านห้ามมิให้ทำซ้ำ, ผลิตสำเนา, ทำสำเนาขาย, ขายต่อ, เข้าถึง, ปรับเปลี่ยนหรือใช้ประโยชน์จากเนื้อหาหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของเว็บไซต์ทั้งหมดโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก COWAY .
3. ใบอนุญาตที่จำกัด COWAY ขอมอบสิทธิ์การใช้งานที่ จำกัด และสามารถเพิกถอนและไม่ จำกัด เฉพาะเพื่อเข้าถึงและใช้งานเว็บไซต์ได้ ท่านต้องเก็บรักษาโดยต้องไม่ดัดแปลงประกาศที่เป็นกรรมสิทธิ์ทั้งหมดในเว็บไซต์, หรือติด, หรือมีอยู่ในเว็บไซต์ การใช้งานเว็บไซต์ใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือเนื้อหาใดๆ และ / หรือทั้งหมดจะยกเลิกใบอนุญาตที่จำกัด ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 3 โดยไม่กระทบกระเทือนต่อการแก้ไขใดๆ ที่กฎหมายหรือข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้กำหนด
4. ภาระผูกพันและความรับผิดชอบในการเข้าถึงหรือการใช้งานเว็บไซต์ ท่านต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้และคำเตือนพิเศษหรือคำแนะนำสำหรับการเข้าถึงหรือการใช้งานที่โพสต์ไว้ในเว็บไซต์ ท่านจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดเองและโดยสุจริตเสมอ ท่านจะต้องไม่ทำการเปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนแปลงใดๆ กับเว็บไซต์, หรือเนื้อหา, หรือบริการใดๆ ที่อาจปรากฏในเว็บไซต์และจะไม่กระทบกระเทือนต่อความสมบูรณ์หรือการใช้งานเว็บไซต์ใด ๆ หากไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไขใดๆ โดยประมาทหรือโดยเจตนาในภาระหน้าที่ใดๆ ที่กำหนดไว้ในข้อตกลงและเงื่อนไขนี้ท่านจะต้องรับผิดต่อความสูญเสียและความเสียหายทั้งหมดที่อาจทำให้ COWAY, บริษัทในเครือคู่ค้าหรือผู้ให้อนุญาต
5. บัญชีของท่านท่านสามารถเลือกที่จะสร้างบัญชีผู้ใช้ในเว็บไซต์ถ้าท่านอายุเกิน 18 ปีขึ้นไป หากท่านลงทะเบียนสมัครท่านจะมีที่อยู่อีเมล / ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านสำหรับบัญชีของท่าน ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการรักษาความลับของบัญชีชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านและการจำกัด การเข้าถึงโทรศัพท์มือถือและบัญชีของท่าน ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของท่านมีไว้เพื่อการใช้งานของท่านเท่านั้น ท่านยอมรับว่าท่านจะไม่แบ่งปันชื่อผู้ใช้และ / หรือรหัสผ่านของท่านกับใคร ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการรักษาข้อมูลบัญชีของท่านให้เป็นปัจจุบันสมบูรณ์ถูกต้องและเป็นจริง ท่านยินยอมที่จะยอมรับความรับผิดชอบต่อกิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นพร้อมกับการอนุญาตหรือการอนุญาตจากบัญชีชื่อผู้ใช้และ / หรือรหัสผ่านของท่านหรือเพราะท่านไม่สามารถรักษาความปลอดภัยได้เพียงพอสำหรับบัญชีชื่อผู้ใช้และ / หรือรหัสผ่านของท่าน ท่านสามารถยกเลิกบัญชีของท่านได้ตลอดเวลาโดยติดต่อ COWAY Call Center ที่ 02-261-0209 *COWAY ขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธการให้บริการและ / หรือยกเลิกบัญชีโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าหากข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ถูกละเมิดหากยุติการใช้งานหรือเพื่อเหตุผลอันสมควร
6. เนื้อหาผู้ใช้เมื่อท่านส่ง, อัพโหลด, โพสต์, e -mail หรือให้ข้อมูล, ข้อความ, ซอฟท์แวร์, เพลง, เสียง, ภาพถ่าย, กราฟิก, ภาพ, วิดีโอ, ข้อความหรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีอยู่ (รวมเรียกว่า “เนื้อหาผู้ใช้”) ไว้ในเว็บไซต์ ต้องรับผิดชอบต่อเนื้อหาผู้ใช้ทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าบุคคลที่สามทั้งหมดรวมถึงท่านมีส่วนรับผิดชอบต่อเนื้อหาผู้ใช้ทั้งหมดที่โพสต์ลงในเว็บไซต์ ท่านรับทราบและยอมรับว่า COWAY จะไม่รับผิดชอบต่อเนื้อหาผู้ใช้ใดๆ ทุกกรณี ท่านยินยอมที่จะไม่เข้าร่วมหรือให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนให้ผู้อื่นทำหน้าที่ในการส่งอัพโหลดโพสต์ส่งอีเมล์หรืออื่นๆ ที่มีอยู่ในเว็บไซต์เนื้อหาผู้ใช้ที่ (a)ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นอันตรายข่มขู่คุกคามการข่มขู่, หมิ่นประมาทหยาบคายหยาบคายลามกอนาจารหมิ่นประมาทรุกรานความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นแสดงความเกลียดชังหรือเชื้อชาติเชื้อชาติหรือที่ไม่เหมาะสม (b)ท่านไม่มีสิทธิ์ที่จะให้บริการภายใต้กฎหมายหรือภายใต้ความสัมพันธ์ตามสัญญาหรือความไว้วางใจ (c)เป็นที่รู้จักโดยท่านว่าเป็นเท็จไม่ถูกต้องหรือทำให้เข้าใจผิด (d) ท่านได้รับการชดเชยหรือได้รับการพิจารณาจากบุคคลที่สาม หรือ (e)ละเมิดสิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า ความลับทางการค้า ลิขสิทธิ์ หรือสิทธิ์ในทรัพย์สินอื่นๆ ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง นอกจากนี้ท่านยินยอมที่จะไม่ส่งอัพโหลดโพสต์อีเมล์หรืออื่นๆ เพื่อหาไวรัสซอฟต์แวร์การโฆษณาการชักชวนหรือการส่งเสริมการขายที่ไม่พึงประสงค์หรือที่ไม่ได้รับอนุญาตรวมถึงจดหมายลูกโซ่การส่งจดหมายจำนวนมากหรือรูปแบบ “สแปม” ใดๆ ท่านยินยอมที่จะไม่ (1)แอบอ้างบุคคลอื่นหรือนิติบุคคลใดๆ หรือบิดเบือนความจริงในเรื่องนี้หรือบิดเบือนความจริงในความเกี่ยวข้องของท่านกับบุคคลหรือหน่วยงานใดๆ (2)”การบุกรุก” หรือคุกคามอื่นๆ รวมถึงการสนับสนุนการล่วงละเมิดอื่นๆ ล่อลวงหรือทำร้ายบุคคลที่สามรวมถึงการทำร้ายผู้เยาว์ด้วยวิธีใดๆ (3) ปลอมส่วนหัวหรือใช้ตัวระบุเพื่อปลอมแปลงที่มาของเนื้อหาผู้ใช้ (4)โดยเจตนาหรือโดยไม่เจตนาละเมิดกฎหมายท้องถิ่นรัฐรัฐหรือระหว่างประเทศที่บังคับใช้ (5)รวบรวมหรือจัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุถึงตัวบุคคลได้เกี่ยวกับผู้ใช้รายอื่น ท่านรับทราบว่า COWAY มีสิทธิ์ (แต่ไม่ใช่ข้อผูกมัด) ตามดุลพินิจ แต่เพียงผู้เดียวในการปฏิเสธการโพสต์หรือลบเนื้อหาผู้ใช้ใดๆ และ COWAY ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงย่อหรือย่อเนื้อหาผู้ใช้ COWAY มีสิทธิ์ที่จะลบเนื้อหาผู้ใช้ที่ละเมิดข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้หรือเป็นที่รังเกียจในทางที่ผิดและ COWAY ขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธการให้บริการและ / หรือยกเลิกบัญชีโดยไม่ได้จำกัดความเป็นนัยสำคัญของข้อตกลงข้างต้นหรือบทบัญญัติอื่นใดในข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ แจ้งให้ทราบล่วงหน้าสำหรับผู้ใช้ที่ละเมิดข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้หรือละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น
7. ยินยอมรับหนังสือแจ้งข่าวสารทางอิเล็กทรอนิกส์โดยการสมัครรับข้อมูลทางอีเมล์ท่านยินยอมที่จะได้รับข้อตกลงการประกาศการเปิดเผยข้อมูลและการสื่อสารอื่น ๆ (รวมเรียกว่า “ประกาศ”) ซึ่งข้อตกลงและเงื่อนไขเหล่านี้อ้างถึงจาก COWAY ทางอิเล็กทรอนิกส์รวมถึง, แต่ไม่จำกัด เพียงทางอีเมลหรือโดยการโพสต์ประกาศเกี่ยวกับเว็บไซต์ ท่านยอมรับว่าประกาศทั้งหมดที่ COWAY ให้ท่านตอบสนองทางอิเล็กทรอนิกส์ตามข้อกำหนดทางกฎหมายใด ๆ ที่การสื่อสารดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร ท่านต้องแจ้ง COWAY เกี่ยวกับการถอนความยินยอมดังกล่าวโดยติดต่อ COWAY Center ที่ 02-261-2610 และยุติการใช้งานเว็บไซต์ใดๆ ของท่าน ในกรณีดังกล่าวสิทธิ์ทั้งหมดที่ได้รับแก่ท่านตามข้อกำหนดในการให้บริการเหล่านี้จะสิ้นสุดลงโดยอัตโนมัติ COWAY จะไม่ให้ประโยชน์แก่ผู้ใช้ที่ไม่ยินยอมให้ได้รับหนังสือแจ้งทางอิเล็กทรอนิกส์ โปรดทราบว่าการยินยอมนี้เพื่อรับประกาศข้อมูลข่าวสารทั้งหมดที่ท่านอาจดำเนินการเกี่ยวกับการรับการสื่อสารทางการตลาด ตัวเลือกของท่านเกี่ยวกับการรับการสื่อสารทางการตลาดมีอยู่ในนโยบายส่วนบุคคลของเรา
8. ข้อพิพาทและความรับผิดในส่วนที่เกี่ยวกับข้อพิพาทอ้างสิทธิ์หรือข้อพิพาทเกี่ยวกับเว็บไซต์ทั้งหมด, สิทธิและภาระหน้าที่และการดำเนินการทั้งหมดที่กำหนดโดยข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้จะอยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศไทยศาลของประเทศไทยจะมีเขตอำนาจศาลเฉพาะสำหรับข้อพิพาทใดๆ ที่เกิดขึ้นจากข้อตกลงและเงื่อนไขหรือการใช้งานเว็บไซต์นี้
9. การชดใช้ค่าเสียหายท่านยินยอมที่จะปกป้องชดใช้ค่าเสียหาย COWAY, ตัวแทน, สาขา, บริษัทในเครือหรือในกลุ่ม คู่ค้าผู้ให้อนุญาตเจ้าหน้าที่ผู้อำนวยการพนักงานและตัวแทน (“ภาครับความคุ้มครอง”) โดยไม่เป็นอันตรายต่อความสูญเสียความเสียหายหรือค่าใช้จ่ายรวมถึงค่าทนายความที่สมเหตุสมผล ซึ่งเป็นผลมาจากการเรียกร้องการกระทำหรือความต้องการของบุคคลที่สามที่เกิดขึ้นจาก (1)การใช้งานเว็บไซต์หรือเนื้อหาของเว็บไซต์ที่เป็นการละเมิดกฎหมายกฎระเบียบหรือข้อตกลงและเงื่อนไขเหล่านี้หรือ (2)ส่วนใดส่วนหนึ่งของผู้ใช้ของท่าน, เนื้อหา. นอกจากนี้ท่านยินยอมชดใช้ค่าเสียหายแก่บุคคลที่ได้รับความคุ้มครองด้วยความสูญเสียความเสียหายหรือค่าใช้จ่ายรวมทั้งค่าทนายความที่สมเหตุสมผลซึ่งเป็นผลมาจากการละเมิดรวบรวมข้อมูลหรือเครื่องมือรวบรวมข้อมูลและการดึงข้อมูลที่คล้ายกันหรือการกระทำอื่นใดที่ท่านดำเนินการ เรียกดูข้อมูลที่ไม่สมควรหรือเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานของเรา
10. ข้อจำกัดความรับผิดชอบในการรับประกันเว็บไซต์และเนื้อหาและบริการจะถูกนำเสนอ “ตามสภาพ” COWAY ไม่รับรองหรือรับประกันใดๆ ไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยนัยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนดและเงื่อนไขของเว็บไซต์เหล่านี้ หรือเนื้อหาหรือบริการของ COWAY
11. ข้อจำกัดความรับผิดท่านยอมรับว่า COWAY จะไม่รับผิดชอบหรือรับผิดในสัญญาการรับประกันหรือการละเมิด (รวมถึงความประมาทใน (1)การหยุดชะงักทางธุรกิจ (2)การเข้าถึงความล่าช้าหรือการเข้าถึงการหยุดชะงักของเว็บไซต์ (3)การสูญเสียหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการติดต่อกับการมีลิงค์นอกเว็บไซต์ (4)ไวรัสคอมพิวเตอร์ ความล้มเหลวของระบบหรือการทำงานผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากการใช้งานเว็บไซต์รวมทั้งในระหว่างการใช้ลิงค์ของบุคคลที่สาม (5)ความไม่ถูกต้องหรือการละเว้นใดๆ ในเนื้อหาหรือ (6)เหตุการณ์ใดๆ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมที่สมเหตุสมผลของ COWAY COWAY จะไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียทางอ้อมหรือเป็นผลตามข้อตกลงและเงื่อนไขนี้หรือการใช้เว็บไซต์ ท่านยินยอมที่จะไม่นำมาใช้โดยท่านเกินกว่าหกปีหลังการใช้ข้อตกลงและเงื่อนไขของข้อตกลงและเงื่อนไขในการทำสัญญาการรับประกันหรือการละเมิด (รวมทั้งความประมาทเลินเล่อ) ที่เกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับ สิ้นปีที่เกิดเหตุแห่งการกระทำที่เกี่ยวกับการเรียกร้องหรือการกระทำดังกล่าวและท่านได้รับความรู้หรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงในการรับความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์พื้นฐานของการเรียกร้องหรือการกระทำดังกล่าว
12. นโยบายการชำระเงินผ่านเว็บไซด์ เมื่อท่านได้รับมอบสินค้า ท่านมีสิทธิบอกเลิกคำสั่งซื้อโดยส่งหนังสือแสดงเจตนาภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ติดตั้งหรือวันที่ได้รับมอบสินค้าไปยัง COWAY และรับเงินคืนตามเงื่อนไขที่ COWAY กำหนด ทั้งนี้ หากการบอกเลิกสัญญาเป็นไปโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรและไม่ได้เกิดจากความชำรุดบกพร่องของสินค้า ท่านตกลงชำระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งสินค้าหรือทรัพย์สินที่เช่าซื้อจำนวน 3,000 บาท ในกรณีที่การเรียกเก็บเงินจากบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตตามที่ท่านระบุไม่สามารถทำได้ไม่ว่ากรณีใดๆ ท่านตกลงชำระค่าสินค้า และ/หรือค่าบริการ ตลอดจนค่าธรรมเนียม ค่าปรับ ดอกเบี้ย ค่าติดตามทวงถาม และ/หรือค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงหนี้ค้างชำระใดๆ ให้แก่ COWAY เป็นจำนวนเงินตามที่ COWAY กำหนดในใบแจ้งหนี้ และ/หรือตามจดหมายติดตามทวงถาม และ/หรือเอกสารอื่นๆ ที่ทาง COWAY ได้จัดทำขึ้นจนครบถ้วน โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าอีก กรณีท่านเข้าใช้งานเว็บไซด์เพื่อซื้อสินค้ากับ COWAY และได้ชำระราคาสินค้าผ่านทางออนไลน์ด้วยบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต หาก COWAY ไม่ได้รับชำระราคาสินค้า เนื่องจาก การชำระเงินออนไลน์ถูกยกเลิก เนื่องมาจากการกระทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าเพราะเหตุฉ้อฉล หรือปลอมแปลง หรือเหตุอื่นใด เป็นเหตุให้เจ้าของบัตรปฏิเสธการชำระราคาสินค้าและ/หรือบริการดังกล่าว ถือว่าได้ว่าท่านกระทำความผิดต่อกฎหมาย และต้องถูกดำเนินคดีทางตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา ตลอดจนตกลงชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำความผิด พร้อมดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด
13. ข้อตกลงทั้งหมดท่านรับทราบและยอมรับว่าข้อตกลงและเงื่อนไขนี้เป็นข้อตกลงที่สมบูรณ์และเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัวกับ COWAY เกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่านและแทนที่และควบคุมข้อเสนอข้อตกลงหรือการสื่อสารอื่นๆ ทั้งหมดก่อนหน้านี้
14. การปรับเปลี่ยนและการแก้ไขCOWAY ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขโดยดุลพินิจแต่เพียงผู้เดียว การเปลี่ยนแปลงใดๆ จะมีผลต่อการโพสต์ไปยังเว็บไซต์และการประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว การที่ท่านใช้เว็บไซต์ต่อไปถือว่าท่านยอมรับข้อกำหนดที่มีการแก้ไขทั้งหมดแล้ว COWAY ขอสงวนสิทธิ์ในดุลพินิจ แต่เพียงผู้เดียวและโดยเด็ดขาดในการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกบริการชั่วคราวของเว็บไซต์ (หรือส่วนใดส่วนหนึ่ง) โดยเด็ดขาดหรือโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบเป็นครั้งคราว ท่านตกลงว่า COWAY จะไม่รับผิดชอบต่อท่านหรือบุคคลที่สามสำหรับการแก้ไขการระงับหรือการยุติการให้บริการของเว็บไซต์ (หรือส่วนใดๆ) ไม่มีข้อความใดในข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้จะถูกตีความว่าเป็นการสร้างหน่วยงานห้างหุ้นส่วนหรือรูปแบบอื่นใดขององค์กรร่วมกับ COWAY การไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของ COWAY ในข้อนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อสิทธิในการกำหนดให้มีการดำเนินการดังกล่าวเมื่อใดก็ได้หลังจากนั้นและการสละสิทธิ์ของ COWAY ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนบทบัญญัติใดๆ ในกรณีที่บทบัญญัติใดๆ ของข้อกำหนดในการให้บริการเหล่านี้ไม่สามารถบังคับใช้ได้หรือไม่สามารถใช้งานได้ภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้หรือมีคำตัดสินของศาลที่บังคับให้ถือเอาไว้การไม่สามารถบังคับใช้หรือการทุพพลภาพสิ้นเชิงดังกล่าวจะไม่ทำให้ข้อตกลงและเงื่อนไขไม่สามารถบังคับใช้ได้หรือไม่ถูกต้องตามที่ระบุไว้ และเงื่อนไขจะต้องได้รับการแก้ไขเท่าที่จะเป็นไปได้โดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อให้สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของคู่สัญญาอย่างเต็มที่ตามที่ระบุไว้ในบทบัญญัติเดิม COWAY จะไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียทางตรงหรือทางอ้อมภายใต้ข้อกำหนดในการให้บริการนี้หรือการใช้เว็บไซต์ COWAY มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นข้อมูลเท่านั้น
ข้อกำหนดและเงื่อนไขสัญญาเช่าซื้อ
ข้อ 1. ข้อตกลงในการเช่าซื้อ รายการทรัพย์สิน ระยะเวลาการเช่าซื้อ การชำระเงินล่วงหน้าและการชำระค่าเช่าซื้อ
1.1 คู่สัญญาตกลงว่า การชำระเงินค่าเช่าซื้อในแต่ละงวดจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อผู้ให้เช่าซื้อได้รับเงินนั้นและได้ออกใบเสร็จรับเงินในงวดนั้นๆให้แก่ผู้เช่าซื้อไว้เป็นหลักฐานแล้วเท่านั้น
1.2 สัญญาเช่าซื้อทรัพย์สินที่มีกำหนดระยะเวลาการผ่อนชำระ 60 เดือน (5 ปี) หากผู้เช่าซื้อผิดนัดหรือชำระเงินค่างวดในแต่ละงวดไม่ตรงตามระยะเวลาที่กำหนด ผู้เช่าซื้อตกลงชำระค่าใช้จ่ายและดอกเบี้ยให้ผู้ให้เช่าซื้อดังต่อไปนี้
1.2.1 ค่าติดตามทวงถามในอัตรา 100 บาท ต่อ 1 รอบใบแจ้งหนี้ และ
1.2.2 ดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละ 1.25 (1.25%) ต่อเดือน ของยอดค่าเช่าซื้อที่ผู้เช่าซื้อค้างชำระ นับจากวันที่ระบุไว้ในสัญญาฉบับนี้ เมื่อถึงกำหนดชำระในงวดนั้นๆ
1.3 สัญญาเช่าซื้อทรัพย์สินที่มีกำหนดระยะเวลาการผ่อนชำระ 24 เดือน (2 ปี) หากผู้เช่าซื้อผิดนัดหรือชำระเงินค่างวดในแต่ละงวดไม่ตรงตามระยะเวลาที่กำหนด ผู้เช่าซื้อตกลงชำระค่าใช้จ่ายและดอกเบี้ยให้ผู้ให้เช่าซื้อดังต่อไปนี้
1.3.1 ค่าติดตามทวงถามในอัตรา 100 บาท ต่อ 1 รอบใบแจ้งหนี้ และ
1.3.2 ดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละ 0.08 (0.08%) ต่อเดือน ของยอดค่าเช่าซื้อที่ผู้เช่าซื้อค้างชำระ นับจากวันที่ระบุไว้ในสัญญาฉบับนี้ เมื่อถึงกำหนดชำระในงวดนั้นๆ
1.4 ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ 2 งวดติดต่อกัน ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิระงับการให้บริการ ตลอดถึงการบำรุงรักษาอื่นๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินได้ทันทีโดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้เช่าซื้อทราบ ทั้งนี้ ผู้ให้เช่าซื้อขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการให้บริการจากที่กำหนด จนกว่าผู้เช่าซื้อจะได้ชำระหนี้ที่ค้างอยู่ให้แก่ ผู้ให้เช่าซื้อจนครบถ้วนตามสัญญาเสียก่อน
1.5 กรณีที่ผู้ให้เช่าซื้อได้เสนอส่วนลดหรือเงื่อนไขพิเศษให้แก่ผู้เช่าซื้อ เช่น เสนอราคาส่วนลดพิเศษ โปรโมชั่นพิเศษ ให้ข้อเสนอหรือเงื่อนไขพิเศษดังกล่าวสิ้นผลไปทันทีที่พ้นกำหนดระยะเวลาที่ผู้ให้เช่าซื้อเสนอ โดยผู้ให้เช่าซื้อไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้เช่าซื้อทราบล่วงหน้าแต่อย่างใด
1.6 หากผู้เช่าซื้อทำผิดสัญญา ผิดนัดชำระหนี้ เปลี่ยนรูปแบบการชำระหนี้จากการตัดบัตรเครดิตที่แจ้งความประสงค์กับผู้ให้เช่าซื้อไว้ก่อนหน้านี้มาเป็นการชำระหนี้โดยวิธีอื่น หรือมีเหตุอื่นในลักษณะดังกล่าว ผู้ให้เช่าซื้อสามารถใช้สิทธิยกเลิกราคาโปรโมชั่นที่ได้เคยแจ้งไว้กับผู้เช่าซื้อก่อนหน้านี้แล้วกลับมาใช้สิทธิเรียกร้องให้ผู้เช่าซื้อชำระราคาค่าสินค้าเต็มตามราคาเดิมได้ โดยผู้ให้เช่าซื้อไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้เช่าซื้อทราบล่วงหน้าและผู้เช่าซื้อทราบเงื่อนไขดังกล่าวนี้แล้วไม่คัดค้านแต่อย่างใด
ข้อ 2. การส่งมอบ และสถานที่ติดตั้งทรัพย์สิน
2.1 คู่สัญญาตกลงให้สัญญาฉบับนี้มีผลผูกพันคู่สัญญาต่อเมื่อมีการติดตั้งทรัพย์สินที่เช่าซื้อและได้มีการลงลายมือชื่อในหลักฐานยืนยันการติดตั้งทรัพย์สินที่เช่าซื้อแล้ว อนึ่ง หากผู้เช่าซื้อหรือตัวแทนของผู้เช่าซื้อไม่ยินยอมลงลายมือชื่อในหลักฐานยืนยันการติดตั้งทรัพย์สินที่เช่าซื้อ หรือมีกรณีอื่นใดที่ไม่สามารถลงลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าวได้ ให้สัญญาฉบับนี้มีผลผูกพันคู่สัญญาทันทีนับตั้งแต่วันที่ติดตั้งทรัพย์สินที่เช่าซื้อเสร็จสิ้น
2.2 ผู้เช่าซื้อขอยืนยันว่าได้ทำการตรวจสอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อแล้ว เห็นว่าทรัพย์สินที่เช่าซื้ออยู่ในสภาพปกติ เรียบร้อยและสมบูรณ์ถูกต้องแล้วในขณะที่รับมอบสินค้า หากผู้เช่าซื้อหรือตัวแทนของผู้เช่าซื้อตรวจสอบพบว่าทรัพย์สินที่เช่าซื้อชำรุดบกพร่องอย่างหนึ่งอย่างใด ผู้เช่าซื้อหรือตัวแทนผู้เช่าซื้อจะต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่าซื้อทราบภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อ หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ผู้เช่าซื้อไม่อาจยกเหตุแห่งความชำรุดบกพร่องของทรัพย์สินที่เช่าซื้อมากล่าวอ้างใดๆ ต่อผู้ให้เช่าซื้อทั้งสิ้น
2.3 ผู้เช่าซื้อมีหน้าที่จัดเตรียมสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งทรัพย์สิน รวมทั้งจัดให้มีแรงดันน้ำ และกำลังไฟฟ้าที่เพียงพอสำหรับการติดตั้ง และใช้งานทรัพย์สินตามมาตรฐานที่ผู้ให้เช่าซื้อกำหนด
2.4 ผู้เช่าซื้อจะต้องเก็บรักษาทรัพย์สินให้อยู่ในความครอบครอง และการควบคุมดูแลของผู้เช่าซื้อตลอดเวลา ณ สถานที่ติดตั้ง ทั้งนี้ การย้ายทรัพย์สินออกจากสถานที่ติดตั้งจะต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่าซื้อก่อนทุกครั้ง
ข้อ 3. การโอนสิทธิและ/หรือย้ายสถานที่ติดตั้งทรัพย์สิน
3.1 ผู้เช่าซื้อไม่สามารถโอนสิทธิและ/หรือย้ายสถานที่ติดตั้งสินค้า ก่อนครบกำหนดระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ตกลงทำสัญญาเช่าซื้อฉบับนี้ หากผู้เช่าซื้อมีความประสงค์โอนสิทธิและ/หรือย้ายสถานที่ติดตั้งสินค้าก่อนครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ผู้เช่าซื้อจะต้องชำระค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อ ดังต่อไปนี้
– ค่าธรรมเนียมสำหรับการโอนสิทธิ 1,000 บาท, – ค่าธรรมเนียมสำหรับการถอดทรัพย์สิน 1,000 บาท, ค่าธรรมเนียมสำหรับการติดตั้งทรัพย์สินใหม่ 1,000 บาท
กรณีการโอนสิทธิและ/หรือการย้ายสถานที่ติดตั้งทรัพย์สินภายหลังจากที่พ้นกำหนดระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันทำสัญญาเช่าซื้อฉบับนี้ ผู้เช่าซื้อสามารถดำเนินการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายจำนวน 1 ครั้ง แต่ครั้งต่อไปผู้เช่าซื้อจะต้องชำระค่าธรรมเนียมตามสัญญา ข้อ 3. ทั้งนี้ ผู้เช่าซื้อจะต้องแจ้งและปฏิบัติตามขั้นตอนที่ผู้ให้เช่าซื้อกำหนดอย่างถูกต้องครบถ้วน และต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่าซื้อก่อนทุกครั้ง
ข้อ 4. คำรับรองของผู้เช่าซื้อ
4.1 ผู้เช่าซื้อจะต้องใช้งานทรัพย์สินที่เช่าซื้อด้วยความระมัดระวัง และสงวนรักษาทรัพย์สินเสมอด้วยวิญญูชนจักพึงสงวนรักษาทรัพย์สินของตนเอง และจะไม่ใช้ทรัพย์สินดังกล่าวในทางที่ผิดกฏหมาย ผิดประเภท หรือผิดวัตถุประสงค์ และผู้เช่าซื้อจะต้องไม่ทำการดัดแปลง รื้อถอน ซ่อมแซม เปลี่ยนไส้กรอง อะไหล่ ชิ้นส่วนของทรัพย์สินที่เช่าซื้อโดยเด็ดขาด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่าซื้อแล้วเท่านั้น
4.2 ผู้เช่าซื้อตกลงเข้าทำสัญญาบริการบำรุงรักษาทรัพย์สินตลอดระยะเวลาการเช่าซื้อตามเงื่อนไขที่ผู้ให้เช่าซื้อกำหนด
ข้อ 5. กรรมสิทธิ์ การตรวจสอบและความรับผิดในกรณีที่ทรัพย์สินชำรุดหรือสูญหาย
5.1 ในระหว่างการเช่าซื้อตามสัญญานี้ ผู้ให้เช่าซื้อยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน และผู้เช่าซื้อสัญญาว่าจะไม่นำทรัพย์สินที่เช่าซื้อไปจำหน่าย จำนำ ให้เช่า ให้ยืม หรือให้ผู้อื่นครอบครอง หรือใช้ หรือนำไปไว้ที่อื่นนอกจากสถานที่ติดตั้งที่ระบุไว้ในสัญญาฉบับนี้ หากผู้เช่าซื้อฝ่าฝืน ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญานี้ และเรียกเอาทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนได้ทันที พร้อมกับมีสิทธิฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง และทางอาญาต่อผู้เช่าซื้อเพื่อเรียกค่าเสียหายได้
5.2 ในระหว่างการเช่าซื้อตามสัญญาฉบับนี้ ผู้เช่าซื้อยินยอมให้ผู้ให้เช่าซื้อและ/หรือตัวแทนของผู้ให้เช่าซื้อเข้าไปในสถานที่ของผู้เช่าซื้อหรือสถานที่ติดตั้งทรัพย์สินที่เช่าซื้อ เพื่อตรวจสภาพทรัพย์สิน รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยการเข้าไปของผู้ให้เช่าซื้อถือว่าเป็นเหตุอันควรไม่ถือเป็นการบุกรุก หรือเป็นความผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญาแต่อย่างใด
5.3 ในกรณีที่ทรัพย์สินถูกโจรกรรม อัคคีภัย อุทกภัย วินาศภัย สูญหาย ถูกทำลาย ถูกยึดหรืออายัด หรือถูกริบทรัพย์ ไม่ว่าโดยเหตุสุดวิสัยหรือโดยเหตุใดก็ตาม ผู้เช่าซื้อ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายแต่ฝ่ายเดียว และผู้เช่าซื้อจะต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่าซื้อทราบโดยทันที โดยผู้เช่าซื้อตกลงยินยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินที่เช่าซื้อให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อเต็มจำนวนตามความเสียหายที่แท้จริง
5.4 ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อทำการดัดแปลงแก้ไข หรือต่อเติมทรัพย์สินที่เช่าซื้อโดยมิได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่าซื้อก่อน ผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่าซื้อในบรรดาค่าเสียหาย ค่าใช้จ่ายในการทำให้ทรัพย์สินที่เช่าซื้อกลับคืนสู่สภาพเดิม
5.5 ให้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกแก่ผู้เช่าซื้อทันที เมื่อผู้เช่าซื้อได้ชำระค่างวดทรัพย์สินที่เช่าซื้อให้กับผู้ให้เช่าซื้อครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่ตกลงไว้ในสัญญาฉบับนี้
ข้อ 6. การบอกเลิกสัญญา
6.1 สัญญานี้มีผลผูกพันคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจนกว่าจะครบกำหนดการเช่าซื้อ หรือเมื่อมีการบอกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดการเช่าซื้อ ตามข้อตกลงและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญานี้
6.2 เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในสัญญานี้ ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญานี้ได้โดยทันที ก่อนครบกำหนดการเช่าซื้อ เมื่อปรากฏเหตุดังต่อไปนี้
6.2.1 ผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ 2 งวดติดต่อกัน หรือ
6.2.2 ผู้เช่าซื้อไม่ปฏิบัติตามสัญญาข้อใดข้อหนึ่ง และไม่แก้ไขการประพฤติผิดสัญญาดังกล่าวภายใน 7 วันนับแต่ได้รับคำบอกกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่าซื้อ หรือ
6.2.3 ทรัพย์สินสูญหาย เสียหาย หรือถูกทำลายจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ดีดังเดิม หรือถูกยึด ถูกอายัด หรือ
6.2.4 ผู้เช่าซื้อกระทำการใดๆ ในการดัดแปลง หรือกระทำการอื่นใดในลักษณะเดียวกัน จนทำให้ทรัพย์สินที่เช่าซื้อไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ หรือ
6.2.5 ผู้เช่าซื้อถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายหรือถูกยึดทรัพย์บังคับคดีตามคำพิพากษาของศาล
6.3 กรณีมีการบอกเลิกสัญญา ผู้เช่าซื้อจะต้องส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนในสภาพเรียบร้อยใช้งานได้ดีแก่ผู้ให้เช่าซื้อ ณ สถานที่ที่ผู้ให้เช่าซื้อกำหนด และชำระเงินทั้งปวงที่ถึงกำหนดชำระและเรียกค่าเสียหายได้ทันที อีกทั้งยินยอมชำระดอกเบี้ยสำหรับเงินที่ค้างชำระนับแต่วันผิดนัด หรือเป็นหนี้อยู่ในเวลานั้นตามสัญญา และยอมชดใช้ค่าติดตามทวงถามแก่ผู้ให้เช่าซื้ออีกด้วย กรณีที่ผู้เช่าซื้อไม่ส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืน ถือว่าผู้เช่าซื้อครอบครองทรัพย์สินที่เช่าซื้อไว้โดยมิชอบ และยอมให้ผู้ให้เช่าซื้อหรือผู้แทนติดตามเข้าไป ณ ที่ซึ่งทรัพย์สินที่เช่าซื้อนั้นอยู่เพื่อเข้ายึดถือครอบครองเอาคืนไปได้เอง โดยผู้เช่าซื้อยินยอมไม่โต้แย้งขัดขวาง ไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ และยอมใช้ค่าใช้จ่าย ค่าพาหนะ ค่าขนส่ง ค่าธรรมเนียม ค่าทนายความ ที่ผู้ให้เช่าซื้อต้องเสียไปในการสืบสวน ติดตามยึดถือ ครอบครอง ฟ้องร้อง ติดตามเอาทรัพย์สินคืน และค่าซ่อมแซมทรัพย์สินนั้นแก่ผู้ให้เช่าซื้อจนครบถ้วน และผู้เช่าซื้อยอมชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ หรือใช้ค่าเสียหายที่ผู้ให้เช่าซื้อต้องขาดประโยชน์ที่ควรจะได้จากการเอาทรัพย์สินนั้นให้เช่าในอัตราค่าเช่าตามปกติอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่ผู้ให้เช่าซื้อจะเลือก ทั้งนี้ จนกว่าผู้เช่าซื้อจะได้ลงลายมือชื่อทำบันทึกยอมคืนและส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนแก่ผู้ให้เช่าซื้อแล้ว ถ้าวันทำบันทึกส่งมอบอยู่ระหว่างยังไม่ครบงวดก็ยอมชำระงวดนั้นเต็มจำนวน แต่ถ้าผู้ให้เช่าซื้อได้ขายทรัพย์สินที่เช่าซื้อไปแล้วยังไม่คุ้มราคาค่าเช่าซื้อที่ต้องชำระทั้งหมดตามสัญญาฉบับนี้กับค่าเสียหายอื่นๆ ที่เกิดขึ้น ผู้เช่าซื้อจะชดใช้เงินให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อจนครบถ้วน
6.4 ผู้เช่าซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อโดยส่งหนังสือแสดงเจตนาภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ติดตั้งหรือวันที่ได้รับมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อไปยังผู้ให้เช่าซื้อ ทั้งนี้ ทรัพย์สินที่เช่าซื้อต้องอยู่สภาพสมบูรณ์เช่นเดียวกับขณะส่งมอบ หากการบอกเลิกสัญญาเป็นไปโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรและไม่ได้เกิดจากความชำรุดบกพร่องของทรัพย์สินที่เช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อตกลงชำระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งสินค้าหรือทรัพย์สินที่เช่าซื้อจำนวน 3,000 บาท
6.5 เมื่อสัญญาฉบับนี้ได้ถูกบอกเลิกแล้ว บรรดาเงินค่าเช่าซื้อที่ผู้เช่าซื้อได้จ่ายให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อแล้วตามสัญญานี้ให้ตกเป็นของผู้ให้เช่าซื้อทั้งหมด โดยผู้ให้เช่าซื้อไม่ต้องคืนเงินใดๆ ให้แก่ผู้เช่าซื้อ
ข้อ 7. การชำระค่าปรับ
7.1 เมื่อผู้เช่าซื้อที่ตกลงทำสัญญาเช่าซื้อทรัพย์สิน 60 เดือน (5 ปี) บอกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดตามระยะเวลาของสัญญา ผู้เช่าซื้อต้องเสียค่าปรับจากการบอกเลิกสัญญาให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
• บอกเลิกสัญญาก่อนระยะเวลาเช่าซื้อ 3 ปี ผู้เช่าซื้อจะต้องชำระค่าปรับให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อ เป็นเงินจำนวน 100% ของค่างวดสินค้าที่เหลือจาก 36 งวด และนำมาคำนวณรวมเข้ากับ 20% ของค่างวดสินค้าอีก 24 งวดที่เหลือ
– สูตรการคำนวณการบอกเลิกสัญญาก่อน 3 ปี คือ [(36 – จำนวนงวดที่ผ่อนชำระแล้ว) x 100% ของค่างวดสินค้า] + (20% ของค่างวดสินค้า 24 งวด) = จำนวนค่าปรับ
• บอกเลิกสัญญาภายหลังระยะเวลาเช่าซื้อ 3 ปี ผู้เช่าซื้อจะต้องชำระค่าปรับให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อ เป็นเงินจำนวน 20% ของค่างวดสินค้าที่เหลือจาก 60 งวด
– สูตรการคำนวณการบอกเลิกสัญญาภายหลังจาก 3 ปี คือ (60 – จำนวนงวดที่ผ่อนชำระแล้ว) x (20% ของค่างวดสินค้า) = จำนวนค่าปรับ
7.2 เมื่อผู้เช่าซื้อที่ตกลงทำสัญญาเช่าซื้อทรัพย์สิน 24 เดือน (2 ปี) บอกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดตามระยะเวลาของสัญญา ผู้เช่าซื้อต้องเสียค่าปรับจากการบอกเลิกสัญญาให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
• ราคาสินค้าที่เหลือ คือ (ราคาเช่าซื้อตามสัญญา หักลบ ค่างวดสินค้าที่ชำระมาแล้ว)
• ระยะเวลาที่เหลือ คือ (จำนวนงวดตามสัญญา หักลบ จำนวนงวดสินค้าที่ชำระมาแล้ว และนำผลลัพธ์มาหารกับจำนวนงวดตามสัญญา)
– ราคาสินค้าที่เหลือ X ระยะเวลาที่เหลือ = จำนวนค่าปรับ
ข้อ 8. การบอกกล่าว
8.1 การบอกกล่าวใดๆ ตามสัญญาฉบับนี้ให้ทำเป็นหนังสือและส่งโดยไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังที่อยู่ของคู่สัญญาตามที่ระบุไว้ในสัญญาฉบับนี้ ในกรณีที่ส่งไม่ได้หรือคู่สัญญาย้ายที่อยู่ไปโดยไม่แจ้งให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งทราบ ให้ถือว่าคู่สัญญาฝ่ายนั้นได้รับคำบอกกล่าวแล้วในวันที่ไปรษณีย์ไปถึง หรือให้ถือว่าคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งนั้นได้ รับการบอกกล่าวโดยชอบแล้ว หรือการแสดงเจตนาโดยถูกต้องตามกฏหมาย เมื่อครบกำหนด 7 วัน นับแต่วันที่ได้ส่งคำบอกกล่าวนั้น
8.2 คู่สัญญาตกลงให้ถือเอาที่อยู่ตามที่ระบุไว้ในสัญญาฉบับนี้เป็นภูมิลำเนาที่ถูกต้อง เพื่อการติดต่อและการส่งหนังสือบอกกล่าวระหว่างคู่สัญญา จนกว่าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะได้แจ้งเปลี่ยนแปลงที่อยู่ดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง
ข้อ 9. คู่สัญญาตกลงให้นำใบสั่งซื้อสินค้า/สัญญาเช่าซื้อ/สัญญาบริการ หลักฐานยืนยันการติดตั้งทรัพย์สินที่เช่าซื้อ หรือหากคู่สัญญามีข้อตกลงใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสัญญาฉบับนี้เพิ่มเติมในภายหลัง คู่สัญญาตกลงให้เอกสารหรือข้อตกลงดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาฉบับนี้และมีผลผูกพันคู่สัญญาด้วย
ข้อ 10. หากข้อตกลงข้อหนึ่งข้อใดในสัญญาหรือที่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาฉบับนี้ตกเป็นโมฆะหรือไม่สมบูรณ์ คู่สัญญาตกลงให้แยกข้อตกลงดังกล่าวออกจากกัน และให้คู่สัญญามาผูกพันกันตามสัญญาหรือข้อตกลงส่วนที่เหลือที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย
ข้อกำหนดและเงื่อนไขสัญญาเช่าซื้อ
โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทำสัญญากันมีข้อความดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ข้อตกลงในการเช่าซื้อ รายการทรัพย์สิน ระยะเวลาการเช่าซื้อ การชำระเงินล่วงหน้าและการชำระค่าเช่าซื้อ
1.1 คู่สัญญาตกลงว่า การชำระเงินค่าเช่าซื้อในแต่ละงวดจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อผู้ให้เช่าซื้อได้รับเงินนั้นและได้ออกใบเสร็จรับเงินในงวดนั้นๆให้แก่ผู้เช่าซื้อไว้เป็นหลักฐานแล้วเท่านั้น
1.2 สัญญาเช่าซื้อทรัพย์สินที่มีกำหนดระยะเวลาการผ่อนชำระ 36 (3 ปี) หรือ 60 เดือน (5 ปี) หากผู้เช่าซื้อผิดนัด หรือชำระเงินค่างวดทรัพย์สินที่เช่าซื้อในแต่ละงวดไม่ตรงตามระยะเวลาที่กำหนด ผู้เช่าซื้อตกลงชำระค่าใช้จ่ายและดอกเบี้ยให้กับผู้ให้เช่าซื้อดังต่อไปนี้
1.2.1 ค่าติดตามทวงถามในอัตรา 100 บาท ต่อ 1 รอบใบแจ้งหนี้ และ
1.2.2 ดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละ 1.25 (1.25%) ต่อเดือน ของยอดค่าเช่าซื้อที่ผู้เช่าซื้อค้างชำระ นับจากวันที่ระบุไว้ในสัญญาฉบับนี้ เมื่อถึงกำหนดชำระในงวดนั้นๆ
1.3 นกรณีที่ผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ 2 งวดติดต่อกัน ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิระงับการให้บริการ ตลอดถึงการบำรุงรักษาอื่นๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินได้ทันทีโดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้เช่าซื้อทราบ ทั้งนี้ ผู้ให้เช่าซื้อขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการให้บริการจากที่กำหนด จนกว่าผู้เช่าซื้อจะได้ชำระหนี้ที่ค้างอยู่ให้แก่ ผู้ให้เช่าซื้อจนครบถ้วนตามสัญญาเสียก่อน
1.4 กรณีที่ผู้ให้เช่าซื้อได้เสนอส่วนลดหรือเงื่อนไขพิเศษให้แก่ผู้เช่าซื้อ เช่น เสนอราคาส่วนลดพิเศษ โปรโมชั่นพิเศษ ให้ข้อเสนอหรือเงื่อนไขพิเศษดังกล่าวสิ้นผลไปทันทีที่พ้นกำหนดระยะเวลาที่ผู้ให้เช่าซื้อเสนอ โดยผู้ให้เช่าซื้อไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้เช่าซื้อทราบล่วงหน้าแต่อย่างใด
1.5 หากผู้เช่าซื้อทำผิดสัญญา ผิดนัดชำระหนี้ เปลี่ยนรูปแบบการชำระหนี้จากการตัดบัตรเครดิตที่แจ้งความประสงค์กับผู้ให้เช่าซื้อไว้ก่อนหน้านี้มาเป็นการชำระหนี้โดยวิธีอื่น หรือมีเหตุอื่นในลักษณะดังกล่าว ผู้ให้เช่าซื้อสามารถใช้สิทธิยกเลิกราคาโปรโมชั่นที่ได้เคยแจ้งไว้กับผู้เช่าซื้อก่อนหน้านี้แล้วกลับมาใช้สิทธิเรียกร้องให้ผู้เช่าซื้อชำระราคาค่าสินค้าเต็มตามราคาเดิมได้ โดยผู้ให้เช่าซื้อไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้เช่าซื้อทราบล่วงหน้าและผู้เช่าซื้อทราบเงื่อนไขดังกล่าวนี้แล้วไม่คัดค้านแต่อย่างใด
ข้อ 2. การส่งมอบ และสถานที่ติดตั้งทรัพย์สิน
2.1คู่สัญญาตกลงให้สัญญาฉบับนี้มีผลผูกพันคู่สัญญาต่อเมื่อมีการติดตั้งทรัพย์สินที่เช่าซื้อและได้มีการลงลายมือชื่อในหลักฐานยืนยันการติดตั้งทรัพย์สินที่เช่าซื้อแล้ว
อนึ่ง หากผู้เช่าซื้อหรือตัวแทนของผู้เช่าซื้อไม่ยินยอมลงลายมือชื่อในหลักฐานยืนยันการติดตั้งทรัพย์สินที่เช่าซื้อ หรือมีกรณีอื่นใดที่ไม่สามารถลงลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าวได้ ให้สัญญาฉบับนี้มีผลผูกพันคู่สัญญาทันทีนับตั้งแต่วันที่ติดตั้งทรัพย์สินที่เช่าซื้อเสร็จสิ้น
2.2 ผู้เช่าซื้อขอยืนยันว่าได้ทำการตรวจสอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อแล้ว เห็นว่าทรัพย์สินที่เช่าซื้ออยู่ในสภาพปกติ เรียบร้อยและสมบูรณ์ถูกต้องแล้วในขณะที่รับมอบสินค้า หากผู้เช่าซื้อหรือตัวแทนของผู้เช่าซื้อตรวจสอบพบว่าทรัพย์สินที่เช่าซื้อชำรุดบกพร่องอย่างหนึ่งอย่างใด ผู้เช่าซื้อหรือตัวแทนผู้เช่าซื้อจะต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่าซื้อทราบภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อ หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ผู้เช่าซื้อไม่อาจยกเหตุแห่งความชำรุดบกพร่องของทรัพย์สินที่เช่าซื้อมากล่าวอ้างใดๆ ต่อผู้ให้เช่าซื้อทั้งสิ้น
2.3 เช่าซื้อมีหน้าที่จัดเตรียมสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งทรัพย์สิน รวมทั้งจัดให้มีแรงดันน้ำ และกำลังไฟฟ้าที่เพียงพอสำหรับการติดตั้ง และใช้งานทรัพย์สินตามมาตรฐานที่ผู้ให้เช่าซื้อกำหนด
2.4 ผู้เช่าซื้อจะต้องเก็บรักษาทรัพย์สินให้อยู่ในความครอบครอง และการควบคุมดูแลของผู้เช่าซื้อตลอดเวลา ณ สถานที่ติดตั้ง ทั้งนี้ การย้ายทรัพย์สินออกจากสถานที่ติดตั้งจะต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่าซื้อก่อนทุกครั้ง
ข้อ 3. การโอนสิทธิและ/หรือย้ายสถานที่ติดตั้งทรัพย์สิน
3.1ผู้เช่าซื้อไม่สามารถโอนสิทธิและ/หรือย้ายสถานที่ติดตั้งสินค้า ก่อนครบกำหนดระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ ตกลงทำสัญญาเช่าซื้อฉบับนี้ หากผู้เช่าซื้อมีความประสงค์โอนสิทธิและ/หรือย้ายสถานที่ติดตั้งสินค้าก่อนครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ผู้เช่าซื้อจะต้องชำระค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อ ดังต่อไปนี้
- ค่าธรรมเนียมสำหรับการโอนสิทธิ 1,000 บาท, - ค่าธรรมเนียมสำหรับการถอดทรัพย์สิน 1,000 บาท, - ค่าธรรมเนียมสำหรับการติดตั้งทรัพย์สินใหม่ 1,000 บาท
กรณีการโอนสิทธิและ/หรือการย้ายสถานที่ติดตั้งทรัพย์สินภายหลังจากที่พ้นกำหนดระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันทำสัญญาเช่าซื้อฉบับนี้ ผู้เช่าซื้อสามารถดำเนินการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายจำนวน 1 ครั้ง แต่ครั้งต่อไปผู้เช่าซื้อจะต้องชำระค่าธรรมเนียมตามสัญญา ข้อ 3. ทั้งนี้ ผู้เช่าซื้อจะต้องแจ้งและปฏิบัติตามขั้นตอนที่ผู้ให้เช่าซื้อกำหนดอย่างถูกต้องครบถ้วน และต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่าซื้อก่อนทุกครั้ง
ข้อ 4. คำรับรองของผู้เช่าซื้อ
4.1 ผู้เช่าซื้อจะต้องใช้งานทรัพย์สินที่เช่าซื้อด้วยความระมัดระวัง และสงวนรักษาทรัพย์สินเสมอด้วยวิญญูชนจักพึงสงวนรักษาทรัพย์สินของตนเอง และจะไม่ใช้ทรัพย์สินดังกล่าวในทางที่ผิดกฏหมาย ผิดประเภท หรือผิดวัตถุประสงค์ และผู้เช่าซื้อจะต้องไม่ทำการดัดแปลง รื้อถอน ซ่อมแซม เปลี่ยนไส้กรอง อะไหล่ ชิ้นส่วนของทรัพย์สินที่เช่าซื้อโดยเด็ดขาด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่าซื้อแล้วเท่านั้น
4.2 ผู้เช่าซื้อตกลงเข้าทำสัญญาบริการบำรุงรักษาทรัพย์สินตลอดระยะเวลาการเช่าซื้อตามเงื่อนไขที่ผู้ให้เช่าซื้อกำหนด
ข้อ 5. กรรมสิทธิ์ การตรวจสอบและความรับผิดในกรณีที่ทรัพย์สินชำรุดหรือสูญหาย
5.1 ในระหว่างการเช่าซื้อตามสัญญานี้ ผู้ให้เช่าซื้อยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน และผู้เช่าซื้อสัญญาว่าจะไม่นำทรัพย์สินที่เช่าซื้อไปจำหน่าย จำนำ ให้เช่า ให้ยืม หรือให้ผู้อื่นครอบครอง หรือใช้ หรือนำไปไว้ที่อื่นนอกจากสถานที่ติดตั้งที่ระบุไว้ในสัญญาฉบับนี้ หากผู้เช่าซื้อฝ่าฝืน ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญานี้ และเรียกเอาทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนได้ทันที พร้อมกับมีสิทธิฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง และทางอาญาต่อผู้เช่าซื้อเพื่อเรียกค่าเสียหายได้
5.2 ในระหว่างการเช่าซื้อตามสัญญาฉบับนี้ ผู้เช่าซื้อยินยอมให้ผู้ให้เช่าซื้อและ/หรือตัวแทนของผู้ให้เช่าซื้อเข้าไปในสถานที่ของผู้เช่าซื้อหรือสถานที่ติดตั้งทรัพย์สินที่เช่าซื้อ เพื่อตรวจสภาพทรัพย์สิน รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยการเข้าไปของผู้ให้เช่าซื้อถือว่าเป็นเหตุอันควรไม่ถือเป็นการบุกรุก หรือเป็นความผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญาแต่อย่างใด
5.3 ในกรณีที่ทรัพย์สินถูกโจรกรรม อัคคีภัย อุทกภัย วินาศภัย สูญหาย ถูกทำลาย ถูกยึดหรืออายัด หรือถูกริบทรัพย์ ไม่ว่าโดยเหตุสุดวิสัยหรือโดยเหตุใดก็ตามผู้เช่าซื้อจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายแต่ฝ่ายเดียว และผู้เช่าซื้อจะต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่าซื้อทราบโดยทันที โดยผู้เช่าซื้อตกลงยินยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินที่เช่าซื้อให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อเต็มจำนวนตามความเสียหายที่แท้จริง
5.4 ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อทำการดัดแปลงแก้ไข หรือต่อเติมทรัพย์สินที่เช่าซื้อโดยมิได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่าซื้อก่อน ผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่าซื้อในบรรดาค่าเสียหาย ค่าใช้จ่ายในการทำให้ทรัพย์สินที่เช่าซื้อกลับคืนสู่สภาพเดิม
5.5 ให้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกแก่ผู้เช่าซื้อทันที เมื่อผู้เช่าซื้อได้ชำระค่างวดทรัพย์สินที่เช่าซื้อให้กับผู้ให้เช่าซื้อครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่ตกลงไว้ในสัญญาฉบับนี้
ข้อ 6. การบอกเลิกสัญญา
6.1 สัญญานี้มีผลผูกพันคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจนกว่าจะครบกำหนดการเช่าซื้อ หรือเมื่อมีการบอกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดการเช่าซื้อ ตามข้อตกลงและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญานี้
6.2 เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในสัญญานี้ ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญานี้ได้โดยทันที ก่อนครบกำหนดการเช่าซื้อ เมื่อปรากฏเหตุดังต่อไปนี้
6.2.1 ผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ 2 งวดติดต่อกัน หรือ
6.2.2 ผู้เช่าซื้อไม่ปฏิบัติตามสัญญาข้อใดข้อหนึ่ง และไม่แก้ไขการประพฤติผิดสัญญาดังกล่าวภายใน 7 วันนับแต่ได้รับคำบอกกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่าซื้อ หรือ
6.2.3 ทรัพย์สินสูญหาย เสียหาย หรือถูกทำลายจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ดีดังเดิม หรือถูกยึด ถูกอายัด หรือ
6.2.4 ผู้เช่าซื้อกระทำการใดๆ ในการดัดแปลง หรือกระทำการอื่นใดในลักษณะเดียวกัน จนทำให้ทรัพย์สินที่เช่าซื้อไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ หรือ
6.2.5 ผู้เช่าซื้อถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายหรือถูกยึดทรัพย์บังคับคดีตามคำพิพากษาของศาล
6.3 กรณีมีการบอกเลิกสัญญา ผู้เช่าซื้อจะต้องส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนในสภาพเรียบร้อยใช้งานได้ดีแก่ผู้ให้เช่าซื้อ ณ สถานที่ที่ผู้ให้เช่าซื้อกำหนด และชำระเงินทั้งปวงที่ถึงกำหนดชำระและเรียกค่าเสียหายได้ทันที อีกทั้งยินยอมชำระดอกเบี้ยสำหรับเงินที่ค้างชำระนับแต่วันผิดนัด หรือเป็นหนี้อยู่ในเวลานั้นตามสัญญา และยอมชดใช้ค่าติดตามทวงถามแก่ผู้ให้เช่าซื้ออีกด้วย กรณีที่ผู้เช่าซื้อไม่ส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืน ถือว่าผู้เช่าซื้อครอบครองทรัพย์สินที่เช่าซื้อไว้โดยมิชอบ และยอมให้ผู้ให้เช่าซื้อหรือผู้แทนติดตามเข้าไป ณ ที่ซึ่งทรัพย์สินที่เช่าซื้อนั้นอยู่เพื่อเข้ายึดถือครอบครองเอาคืนไปได้เอง โดยผู้เช่าซื้อยินยอมไม่โต้แย้งขัดขวาง ไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ และยอมใช้ค่าใช้จ่าย ค่าพาหนะ ค่าขนส่ง ค่าธรรมเนียม ค่าทนายความ ที่ผู้ให้เช่าซื้อต้องเสียไปในการสืบสวน ติดตามยึดถือ ครอบครอง ฟ้องร้อง ติดตามเอาทรัพย์สินคืน และค่าซ่อมแซมทรัพย์สินนั้นแก่ผู้ให้เช่าซื้อจนครบถ้วน และผู้เช่าซื้อยอมชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ หรือใช้ค่าเสียหายที่ผู้ให้เช่าซื้อต้องขาดประโยชน์ที่ควรจะได้จากการเอาทรัพย์สินนั้นให้เช่าในอัตราค่าเช่าตามปกติอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่ผู้ให้เช่าซื้อจะเลือก ทั้งนี้ จนกว่าผู้เช่าซื้อจะได้ลงลายมือชื่อทำบันทึกยอมคืนและส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนแก่ผู้ให้เช่าซื้อแล้ว ถ้าวันทำบันทึกส่งมอบอยู่ระหว่างยังไม่ครบงวดก็ยอมชำระงวดนั้นเต็มจำนวน แต่ถ้าผู้ให้เช่าซื้อได้ขายทรัพย์สินที่เช่าซื้อไปแล้วยังไม่คุ้มราคาค่าเช่าซื้อที่ต้องชำระทั้งหมดตามสัญญาฉบับนี้กับค่าเสียหายอื่นๆ ที่เกิดขึ้น ผู้เช่าซื้อจะชดใช้เงินให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อจนครบถ้วน
6.4 ผู้เช่าซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อโดยส่งหนังสือแสดงเจตนาภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ติดตั้งหรือวันที่ได้รับมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อไปยังผู้ให้เช่าซื้อ ทั้งนี้ ทรัพย์สินที่เช่าซื้อต้องอยู่สภาพสมบูรณ์เช่นเดียวกับขณะส่งมอบ หากการบอกเลิกสัญญาเป็นไปโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรและไม่ได้เกิดจากความชำรุดบกพร่องของทรัพย์สินที่เช่าซื้อผู้เช่าซื้อตกลงชำระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งสินค้าหรือทรัพย์สินที่เช่าซื้อจำนวน 3,000 บาท
6.5 เมื่อสัญญาฉบับนี้ได้ถูกบอกเลิกแล้ว บรรดาเงินค่าเช่าซื้อที่ผู้เช่าซื้อได้จ่ายให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อแล้วตามสัญญานี้ให้ตกเป็นของผู้ให้เช่าซื้อทั้งหมด โดยผู้ให้เช่าซื้อไม่ต้องคืนเงินใดๆ ให้แก่ผู้เช่าซื้อ
ข้อ 7. การชำระค่าปรับ
7.1 เมื่อผู้เช่าซื้อที่ตกลงทำสัญญาเช่าซื้อทรัพย์สิน 36 เดือน (3 ปี) บอกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดตามระยะเวลาของสัญญา ผู้เช่าซื้อต้องเสียค่าปรับจากการบอกเลิกสัญญาให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
• กรณีผู้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาก่อนระยะเวลาเช่าซื้อ 24 (ยี่สิบสี่) เดือน นับตั้งแต่วันที่เริ่มต้นสัญญา ผู้เช่าซื้อจะต้องจ่ายชำระค่าปรับเท่ากับจำนวนเงินค่างวดต่อเดือน จนถึงเดือนที่ 24 (ยี่สิบสี่) และจ่ายชำระค่าปรับเพิ่มเติมอีกในอัตราร้อยละ 20 ของเงินค่างวดต่อเดือน ตั้งแต่เดือนที่ 25 – 36 (ยี่สิบห้า ถึง สามสิบหก) หรือ
• กรณีผู้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาภายหลังระยะเวลาเช่าซื้อ 24 (ยี่สิบสี่) เดือน นับตั้งแต่วันที่เริ่มต้นสัญญา ผู้เช่าซื้อจะต้องจ่ายชำระค่าปรับในอัตราร้อยละ 20 ของเงินค่างวดต่อเดือน ตั้งแต่เดือนที่บอกเลิก จนถึงเดือนที่ 36 (สามสิบหก)7.2 เมื่อผู้เช่าซื้อที่ตกลงทำสัญญาเช่าซื้อทรัพย์สิน 60 เดือน (5 ปี) บอกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดตามระยะเวลาของสัญญา ผู้เช่าซื้อต้องเสียค่าปรับจากการบอกเลิกสัญญาให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
• กรณีผู้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาก่อนระยะเวลาเช่าซื้อ 36 (สามสิบหก) เดือน นับตั้งแต่วันที่เริ่มต้นสัญญาผู้เช่าซื้อจะต้องจ่ายชำระค่าปรับเท่ากับจำนวนเงินค่างวดต่อเดือนจนถึงเดือนที่ 36 (สามสิบหก) และจ่ายชำระค่าปรับเพิ่มเติมอีกในอัตราร้อยละ 20 ของเงินค่างวดต่อเดือน ตั้งแต่เดือนที่ 37 – 60 (สามสิบเจ็ด ถึง หกสิบ) หรือ
• กรณีผู้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาภายหลังระยะเวลาเช่าซื้อ 36 (สามสิบหก) เดือน นับตั้งแต่วันที่เริ่มต้นสัญญา ผู้เช่าซื้อจะต้องจ่ายชำระค่าปรับในอัตราร้อยละ 20 ของเงินค่างวดต่อเดือน ตั้งแต่เดือนที่บอกเลิก จนถึงเดือนที่ 60 (หกสิบ)
ข้อ 8. การบอกกล่าว
8.1 การบอกกล่าวใดๆ ตามสัญญาฉบับนี้ให้ทำเป็นหนังสือและส่งโดยไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังที่อยู่ของคู่สัญญาตามที่ระบุไว้ในสัญญาฉบับนี้ ในกรณีที่ส่งไม่ได้หรือคู่สัญญาย้ายที่อยู่ไปโดยไม่แจ้งให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งทราบ ให้ถือว่าคู่สัญญาฝ่ายนั้นได้รับคำบอกกล่าวแล้วในวันที่ไปรษณีย์ไปถึง หรือให้ถือว่าคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งนั้น ได้รับการบอกกล่าวโดยชอบแล้ว หรือการแสดงเจตนาโดยถูกต้องตามกฏหมาย เมื่อครบกำหนด 7 วัน นับแต่วันที่ได้ส่งคำบอกกล่าวนั้น
8.2 คู่สัญญาตกลงให้ถือเอาที่อยู่ตามที่ระบุไว้ในสัญญาฉบับนี้เป็นภูมิลำเนาที่ถูกต้อง เพื่อการติดต่อและการส่งหนังสือบอกกล่าวระหว่างคู่สัญญา จนกว่าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะได้แจ้งเปลี่ยนแปลงที่อยู่ดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง
ข้อ 9. คู่สัญญาตกลงให้นำใบสั่งซื้อสินค้า/สัญญาเช่าซื้อ/สัญญาบริการ หลักฐานยืนยันการติดตั้งทรัพย์สินที่เช่าซื้อ หรือหากคู่สัญญามีข้อตกลงใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสัญญาฉบับนี้เพิ่มเติมในภายหลัง คู่สัญญาตกลงให้เอกสารหรือข้อตกลงดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาฉบับนี้และมีผลผูกพันคู่สัญญาด้วย
ข้อ 10. หากข้อตกลงข้อหนึ่งข้อใดในสัญญาหรือที่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาฉบับนี้ตกเป็นโมฆะหรือไม่สมบูรณ์ คู่สัญญาตกลงให้แยกข้อตกลงดังกล่าวออกจากกัน และให้คู่สัญญามาผูกพันกันตามสัญญาหรือข้อตกลงส่วนที่เหลือที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย
สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจข้อความโดยตลอดแล้ว เห็นว่าถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์ของคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย จึงได้ลงลายมือชื่อพร้อมประทับตรา (ถ้ามี) ไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าพยาน และต่างยึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ
ข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการ
1. ผู้ให้บริการตกลงให้บริการบำรุงรักษาและซ่อมแซมสินค้า ณ สถานที่ติดตั้งสินค้า ตามที่ระบุไว้ในรายละเอียดรายการสินค้า หรือตามเอกสารคำสั่งซื้อสินค้าแต่ละประเภท ภายในระยะเวลา 60 เดือน (5 ปี) นับแต่วันติดตั้งทรัพย์สิน หรือวันที่เริ่มต้นสัญญา
2. ตลอดระยะเวลาบริการตามสัญญา ผู้ให้บริการตกลงให้บริการบำรุงรักษา และซ่อมแซมสินค้า มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ตรวจสภาพสินค้า เปลี่ยนไส้กรองและหัวฉีดทำความสะอาดทุก 4 เดือน เป็นระยะเวลาตามสัญญาเช่าซื้อทรัพย์สิน 3 ปี หรือ 5 ปี หรือตามสัญญาซื้อขาย (สำหรับฝารองสุขภัณฑ์เท่านั้น)
- ตรวจสภาพสินค้า ทำความสะอาดสินค้าทุก 2 เดือน เป็นระยะเวลาตามสัญญาเช่าซื้อทรัพย์สิน 5 ปี หรือตามสัญญาซื้อขาย (สำหรับสินค้าเครื่องกรองน้ำหรือเครื่องฟอกอากาศ)
- เปลี่ยนไส้กรองตามรอบการเปลี่ยนไส้กรองของแต่ละประเภท, - ซ่อมแซมสินค้าในกรณีที่สินค้าเกิดชำรุดจากการใช้งานปกติในครัวเรือน หรือสำนักงาน
- ให้คำแนะนำแก่ผู้รับบริการทางโทรศัพท์ โทรสาร จดหมายอิเล็กทรอนิคส์ (e-mail) หรือด้วยวิธีอื่นใด โดยเจ้าหน้าที่ช่างผู้บริการของผู้ให้บริการ - ผู้ให้บริการตกลงจัดหาช่างผู้ชำนาญการ เพื่อเข้าให้บริการบำรุงรักษาและซ่อมแซมสินค้า โดยช่างผู้ชำนาญการจะเข้าให้บริการในเวลาทำการปกติของผู้ให้บริการ จันทร์ – เสาร์ เวลา 10.00 – 17.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์
3. ในการย้ายสถานที่ติดตั้งสินค้าจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการเสียก่อน โดยยื่นคำขอย้ายสถานที่ติดตั้งสินค้าตามแบบที่ผู้ให้บริการกำหนด เพื่อให้ผู้ให้บริการตรวจสอบพื้นที่การให้บริการและพิจารณาอนุมัติให้ย้ายสถานที่ติดตั้งสินค้าได้
4. ผู้รับบริการยินยอมให้ผู้ให้บริการหรือตัวแทนของผู้ให้บริการเข้าไปในอาคารหรือที่พักอาศัยที่ติดตั้งสินค้าเพื่อให้บริการบำรุงรักษา เปลี่ยนไส้กรอง หรือซ่อมแซมในระหว่างเวลาทำการปกติของผู้รับบริการ
5. ในการให้บริการเปลี่ยนไส้กรอง หรือซ่อมแซม ที่ต้องมีการเปลี่ยนอะไหล่ ผู้ให้บริการตกลงส่งมอบ และ ติดตั้ง ไส้กรอง หรืออะไหล่ อันใหม่ให้แก่ผู้รับบริการ และผู้รับบริการตกลงส่งมอบไส้กรอง หรืออะไหล่ที่ถูกเปลี่ยนนั้น แก่ผู้ให้บริการเพื่อแลกเปลี่ยนกัน
6. ในการให้บริการเปลี่ยนไส้กรอง หรือ บริการซ่อมแซม ที่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ หรือ อะไหล่ จะต้องให้ช่างผู้ชำนาญการของผู้ให้บริการเป็นผู้กระทำเท่านั้น ผู้รับบริการไม่สามารถเก็บไส้กรอง อุปกรณ์ หรือ อะไหล่ เพื่อเปลี่ยน หรือ ซ่อมแซมด้วยตนเองได้
7. ในกรณีที่สินค้าไม่สามารถซ่อมแซมให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ ผู้ให้บริการตกลงจัดหาสินค้าสำรองที่มีคุณภาพใกล้เคียงหรือเทียบเท่ากับสินค้าตามสัญญานี้ มาให้ผู้รับบริการใช้เป็นการชั่วคราวภายในระยะเวลาอันสมควร นับจากวันที่ทราบว่าการซ่อมแซมต้องใช้เวลามากกว่า 1 สัปดาห์
8. การให้บริการตามสัญญาบริการฉบับนี้ ผู้รับบริการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าแรง ค่าอะไหล่ ค่าตรวจเช็คทำความสะอาดสินค้า เว้นแต่กรณีซ่อมแซมสินค้าซึ่งชำรุดจากเหตุดังต่อไปนี้
- สินค้าถูกใช้นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ในการกรองน้ำเพื่ออุปโภคหรือบริโภคในครัวเรือน, - สินค้าชำรุดจากเหตุสุดวิสัย หรืออุบัติเหตุ ที่ไม่ใช่ความผิดของ ผู้ให้บริการ, - สินค้าถูกถอดออกจากสถานที่ติดตั้ง หรือ ถูกซ่อมแซม โดยผู้รับบริการเอง หรือผู้อื่น ที่มิใช่ช่างผู้ชำนาญการของผู้ให้บริการ, - สินค้าถูกดัดแปลง แก้ไข ต่อเติม หรือถูกกระทำการใดๆ ที่ทำให้การทำงานของสินค้าเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม, - สินค้าถูกนำไปใช้ร่วมกับไส้กรองยี่ห้ออื่น หรือนำไส้กรองที่ถูกเปลี่ยนแล้วมาใช้ใหม่
9. สัญญาบริการนี้จะระงับ / สิ้นสุด ในกรณีดังต่อไปนี้
- ในกรณีเช่าซื้อสินค้า สัญญาบริการสิ้นสุดเมื่อสัญญาเช่าซื้อสินค้าถูกบอกเลิกโดยชอบด้วยกฎหมาย, - สัญญาบริการสิ้นสุดเมื่อสินค้า สูญหาย บุบสลาย หรือชำรุดเสียหายจนไม่สามารถแก้ไขให้กลับมาใช้งานตามปกติได้ โดยไม่ใช่ความผิดของผู้ให้บริการ, - สัญญาบริการสิ้นสุดเมื่อผู้รับบริการย้ายสถานที่ติดตั้งสินค้าโดยไม่ได้รับความยินยอมของผู้ให้บริการ, - ในกรณีเช่าซื้อสินค้าการให้บริการจะถูกระงับชั่วคราว เมื่อผู้รับบริการผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ 2 งวดติดต่อกัน ทั้งนี้จนกว่าผู้รับบริการจะได้ชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างอยู่จนครบถ้วน โดยไม่ทำให้ระยะเวลาบริการตามสัญญาฉบับนี้สะดุดหยุดลง, - ในกรณีมีเหตุสุดวิสัยที่ผู้ให้บริการไม่สามารถให้บริการได้ อาทิเช่น ภัยธรรมชาติ การจลาจล สงครามกลางเมือง การประท้วง เป็นต้น การให้บริการจะถูกระงับชั่วคราว จนกว่าเหตุสุดวิสัยนั้น ๆ สิ้นสุดลง โดยระยะเวลาบริการตามสัญญาจะหยุดลง และนับต่อไปตั้งแต่เหตุสุดวิสัยสิ้นสุดลง
10. หากข้อความในสัญญาข้อหนึ่งข้อใดเป็นโมฆะหรือไม่สมบูรณ์ คู่สัญญาตกลงให้ถือว่าส่วนที่ไม่เป็นโมฆะหรือสมบูรณ์ แยกออกจากส่วนที่เป็นโมฆะหรือไม่สมบูรณ์นั้น และมีผลใช้บังคับได้
เงื่อนไขการซื้อสินค้า
ข้อ 1.บริษัท โคเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด (“Coway”) จะรับคำสั่งซื้อสินค้า (“สินค้า”) หรือบริการ (“บริการ”) ทั้งหมดที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขและข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายดังระบุไว้ในด้านหน้านี้ โดยบุคคลซึ่งมีคำสั่งซื้อสินค้าหรือบริการจาก Coway (“ลูกค้า”) จะมีภาระผูกพันตามเงื่อนไขและข้อตกลงดังกล่าวด้วย สำหรับการสั่งซื้อของลูกค้าถือเป็นเอกสารหลักฐานที่มีขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการสั่งซื้อสินค้า ประเภทสินค้า ราคา ตลอดจนระบุสถานที่ติดตั้งสินค้า และคำสั่งการจัดส่งสินค้าเท่านั้น ดังนั้น ข้อกำหนดใดๆในคำสั่งซื้อของลูกค้า (หรือเอกสารและการสื่อสารอื่นๆ) ที่ไม่สอดคล้องกัน หรือเป็นส่วนขยายเพิ่มเติมจากเงื่อนไขและข้อตกลงดังระบุในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นส่วนของสัญญาที่ทำขึ้นระหว่าง Coway และลูกค้า ในการนี้ Coway ขอสงวนสิทธิ์ที่จะแก้ไขปรับปรุงเงื่อนไข และข้อตกลงดังกล่าวได้ตลอดเวลา
Coway จะทำการติดตั้งสินค้าหลังจากที่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าหรือเงินดาวน์ตามที่กำหนดถูกต้องครบถ้วนแล้วเท่านั้น และขอสงวนสิทธิ์ไม่ติดตั้งสินค้า และมีสิทธินำสินค้ากลับคืนทันที ในกรณีที่ตรวจสอบพบว่าลูกค้าชำระเงินค่าสินค้าไม่ครบตามจำนวนที่กำหนด
ข้อ 2. สินค้าของ Coway เป็นสินค้าใหม่ทั้งหมด โดยเป็นสินค้านำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้ เมื่อเกิดปัญหากับสินค้าจากการใช้งานตามปกติ การรับประกันของ Coway จะรับประกันครอบคลุมทั้งตัวเครื่อง อุปกรณ์ และอะไหล่ต่างๆ โดยความรับผิดชอบสูงสุดของ Coway นั้น จะชดเชยให้เท่ากับหรือไม่สูงกว่าราคาที่ซื้อสินค้าประเภทนั้นๆ
ข้อ 3. ราคาสินค้า Coway ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าได้ตลอดเวลา หากลูกค้าเกิดความไม่แน่ใจในราคา โปรดเยี่ยมชมรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.coway.co.th เพื่อตรวจสอบราคาและประเภทของสินค้าทุกชนิด
ข้อ 4. Coway ขอสงวนสิทธิ์ที่จะปฏิเสธในการทำการค้ากับบริษัทหรือบุคคลใดๆ และ/หรือปฏิเสธที่จะตอบรับคำสั่งซื้อใดๆ จากลูกค้า และ/หรือมีสิทธิที่จะอนุมัติ หรือปฏิเสธการสั่งซื้อสินค้าใดๆ จากลูกค้า
ข้อ 5. การจัดส่งและการติดตั้งสินค้า Coway จะจัดส่งและติดตั้งสินค้าให้ลูกค้าภายหลังจากที่ Coway ตรวจสอบเอกสารและสอบถามข้อมูลลูกค้าเรียบร้อยแล้ว และเห็นว่าลูกค้ามีคุณสมบัติตามที่ Coway กำหนด (เว้นแต่จะได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่นก่อนวันที่มีการจัดส่งสินค้า) นอกจากนี้ Coway จะแจ้งรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติมให้ลูกค้าทราบ ณ วันที่ติดตั้งหรือส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้า
ทั้งนี้ วันและเวลาในการจัดส่งสินค้าตามที่ระบุไว้ในคำสั่งซื้อ หรือตามที่ตัวแทนของ Coway ได้แจ้งต่อลูกค้านั้น เป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น อาจเกิดความล่าช้ากว่ากำหนด (แล้วแต่กรณี) ดังนั้น ลูกค้าไม่สามารถนำคำบอกกล่าวหรือความล่าช้าดังกล่าวมาเป็นเหตุให้บอกเลิกคำสั่งซื้อ สัญญาต่างๆ หรือฟ้องร้องดำเนินคดีกับ Coway
ข้อ 6. การชำระเงินค่าสินค้า เมื่อลูกค้าชำระเงินค่าสินค้าแล้ว Coway จะออกใบเสร็จรับเงินชั่วคราวให้แก่ลูกค้าไว้เป็นหลักฐาน และลูกค้าจะได้ใบเสร็จรับเงินฉบับตัวจริงไม่เกิน 40 วันภายหลังจากได้รับการติดตั้งหรือรับมอบสินค้าเรียบร้อยแล้ว
กรณีลูกค้าชำระเงินค่าสินค้าด้วยเช็ค การชำระเงินดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์ต่อเมื่อ Coway ได้ทำการเรียกเก็บเงินจากธนาคารผู้สั่งจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วเท่านั้น
Coway กำหนดเงื่อนไขการชำระเงิน โดยให้เป็นการชำระเงินล่วงหน้าก่อนการจัดส่งสินค้า ซึ่งจะต้องชำระเงินด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
(1) การโอนเงินผ่านธนาคาร (2) การชำระด้วยเช็ค (3) การชำระผ่านบัตรเครดิต (4) การชำระเงินผ่านตัวแทนขายของ Cowayy
ข้อ 7. Coway จะรับประกันสินค้าตามระยะเวลาที่ลูกค้าตกลงทำสัญญากับ Coway โดยรายละเอียดปรากฏตามเงื่อนไขการให้บริการสินค้าของ Coway แต่ไม่รวมถึงความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการใช้งานหรือการรับบริการที่ไม่เหมาะสมของลูกค้า ได้แก่
(1) การซ่อมแซม ดัดแปลง แก้ไขโดยบุคคลอื่น ซึ่งมิใช่ผู้ให้บริการของ Coway (2) การใช้สินค้าผิดประเภท หรือใช้งานสินค้าผิดวัตถุประสงค์
(3) สินค้าเสียหายโดยเจตนาของลูกค้า (4) ภัยธรรมชาติ การจลาจล สงครามกลางเมือง การประท้วง เป็นต้น
ข้อ 8. ลูกค้าสามารถบอกเลิกการสั่งซื้อหรือบริการโดยส่งหนังสือแสดงเจตนามายัง Coway ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ติดตั้งหรือรับมอบสินค้า ทั้งนี้ สินค้าจะต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์เช่นเดียวกับขณะส่งมอบ หากการบอกเลิกการสั่งซื้อและบริการเป็นไปโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรและไม่ได้เกิดจากความชำรุดบกพร่องของสินค้า ลูกค้าจะต้องชำระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งสินค้าเป็นเงินจำนวน 3,000 บาท
ข้อ 9. ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ณ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 75/104-106 อาคารโอเชี่ยนทาวเวอร์ 2 ชั้น 38 ซอยสุขุมวิท 19 (วัฒนา) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 หรือโทร. 1421 (Call Center) วันจันทร์-เสาร์ เวลา 10.00 – 17.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือเว็ปไซต์ www.coway.co.th